ขมิ้นชันอาหารเพื่อสุขภาพและการดัดแปลงให้เข้ากับนาฬิกาชีวิต

ขายขมิ้นชันพร้อมสรรพคุณและประโยชน์ดีๆ

ขายขมิ้นชัน  ขมิ้นชันชอบแสงแดด|แสงอาทิตย์|แดด}จัดและก็มีความชุ่มชื้นสูง ถูกใจดินร่วนซุย มีการระบายน้ำดี เกลียดน้ำขัง วิธีปลูกใช้เหง้าหรือหัวอายุ10-12เดือนทำชนิด ถ้าเป็นเหง้าควรยาวประมาณ8-12ซม.หรือมีตา6-7ตา ปลูกลงแปลง กลบดินหนาราวๆ5-10เซนติเมตร รับผลิตขมิ้นชันจะต้องใช้ช่วงเวลาสำหรับการงอกราวๆ30-70ขายส่งขมิ้นชันวันหลังปลูกควรรดน้ำวันแล้ววันเล่า จากนั้นเมื่อขมิ้นแก่ได้ 9-10 เดือนจึงจะสามารถเก็บเกี่ยวและนำมาขายขมิ้นชันได้

ฤดูปลูกขมิ้นชัน : ควรเริ่มปลูกขมิ้นชันในช่วงต้นหน้าฝนราวสิ้นเดือนเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนเดือนพฤษภาคม

ฤดูการเก็บเกี่ยวและก็ขายขมิ้นชันได้ : จะเก็บเกี่ยวหัวขมิ้น ในฤดูหนาวหรือโดยประมาณปลายเดือนเดือนธันวาคมถึงมกราคม ซึ่งขณะนี้หัวขมิ้นชันจะแห้งสนิท

เหง้าของขมิ้นชันมีรสฝาด กลิ่นหอมยวนใจ สามารถเก็บมาใช้เมื่อมีช่วงอายุ 9-10 เดือน มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดการอักเสบ แล้วก็ มีฤทธิ์ในการขับน้ำดี น้ำมันหอมระเหย ขายขมิ้นชันยังมีสรรพคุณทุเลา ลักษณะของการปวดท้อง อาการท้องอืด แน่นจุดเสียด แก้โรคผิวหนัง ขับลม แก้ผื่นคัน แก้ท้องเดิน บางทีอาจช่วยรักษาโรค รูมาตอยด์ได้ ยังไม่ยืนยันแจ่มแจ้ง ในตำรายาจีนเรียกเจียวหวง ภาษาจีนกลาง หรือ เกียอึ้ง (ภาษาจีนแต้จิ๋ว) ใช้เป็นยา แก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว แก้ปวดระดู

เหง้าขมิ้นชันมีสารประกอบที่สำคัญ เป็นน้ำมันหอมระเหย และก็ในเหง้ายังมีสารสีเหลืองส้มที่เรียกว่าเคอร์คูไม่น สารสกัดด้วยเอทานอลจากเหง้าสดมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสรวมทั้งต้านทานอนุมูลอิสระขมิ้นชันสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดอาการอักเสบ มีฤทธิ์ในการขับน้ำก้าวหน้า น้ำมันหอมระเหยในขมิ้นชันมีคุณประโยชน์รักษาเจ็บท้องเสียด ท้องขึ้น แน่นจุกเสียด ขมิ้นชันไม่มีพิษทันควัน มีความปลอดภัยสูง

ของกินขายขมิ้นชันเป็นองค์ประกอบดังเช่นแกงเหลือง แกงไตปลา แกงกอและก็ แกงฮังเล ข้าวแขก ข้าวหมกไก่ ของหวานเบื่อ ของหวาน ขนมเบื้อญวน รวมทั้งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผงกะหรี่ ขมิ้นชันใช้ย้อมผ้าให้ได้สีเหลือง ถ้าใส่ใบหรือผลมะขามป้อม ลงไปด้วยจะได้สีเขียว นอกจากนั้น สำหรับเพื่อการทำปูนแดง จะนำปูนมาผสมกับขมิ้นชัน ในยุคเก่านิยมขายขมิ้นชันเอาผงขมิ้นชันทาตัวให้ผิวเหลือง รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน ใช้ทาศีรษะหลังโกนผม เพื่อรักษาบาดแผลที่เกิดขึ้นจากการใช้มีดโกน โกนผม

แคปซูลขมิ้นชันขมิ้นชัน เพิ่มภูมิคุ้มกันอิมมูโนโกลบูลิน จำพวกจี (IgG) แล้วก็ลดความไวต่อตัวกระตุ้น ช่วยขยายหลอดลม ฤทธิ์ต้านทานการอักเสบ แล้วก็เป็นสมุนไพรรักษาโรคภูมิแพ้แก้อาการท้องอืด ท้องอืดท้องเฟ้อ แน่น จุกเสียด ของกินไม่ย่อย อาการแสบคัน แก้หิว และก็แก้หิว ทำโดยล้างขมิ้นชันให้สะอาด ไม่ต้องปอกออก หั่นเป็นชิ้นบางๆผึ่งแดดจัดสัก 1-2 วัน บดให้รอบคอบผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นเม็ดขนาดปลายนิ้วก้อย กินทีละ 2-3 เม็ด วันละ 3 -4 ครั้ง หลังรับประทานอาหารและก็ก่อนนอน แต่บางคนเมื่อรับประทานยานี้แล้วแน่นจุกเสียดให้หยุดกินยานี้

การศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยเพิ่มเติมอีกพบว่า การกินขมิ้นชันตามนาฬิกาชีวิตในช่วงที่อวัยวะต่างๆเปิดการทำงาน ขายขมิ้นชันจะช่วยส่งเสริมความสามารถของขายส่งขมิ้นชันมากเพิ่มขึ้น โดยเหตุนี้ เราแคปซูลขมิ้นชันต้องรับประทานขมิ้นชันให้เป็นของกิน จำต้องกินให้สนุก ไม่ใช่รับประทานเป็นยา ใช้ทำอาหารบ้าง หุงข้าวใส่ขมิ้นชันก็ได้ รับประทานแบบเม็ดแคปซูลบ้างรับผลิตขมิ้นชัน

ส่วนประกอบสำคัญ

ขมิ้นชัน

ขายขมิ้นชัน ขายส่งขมิ้นชัน จำหน่ายขมิ้นชัน แคปซูลขมิ้นชัน 
รับผลิตขมิ้นชัน 

ขมิ้นชันคุณประโยชน์ ทำความสะอาดลำไส้ สมานแผลในกระเพราะของกินต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดมะเร็งในตับ มีวิตมินเอ วิตมินอี วิตมีนซี เมื่อไปสู่ร่างกายจะทำงานพร้อมกันอีกทั้ง 3 ตัวมีส่วนช่วยลดไขมันไนตับ สร้างภูมิต้านทานให้แก่ผิวหนังกำจัดเชื้อราที่ปนเปื้อนมากับอาหารที่รับประทานเข้าไปสะสมทำให้เกิดโรคมะเร็ง ช่วยขับน้ำนมสตรีที่มีบุตรขมิ้นชันมีสรรพคุณมากมายหลายอย่างดังนี้ ใช้บำรุงเลือด ฟอกโลหิต บำรุงธาตุ บำรุงผิวพรรณให้ผ่องแผ้ว รักษาอาการอักเสบที่เกี่ยวกับข้อ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ปวดระดูหรือรอบเดือนมาไม่ดีเหมือนปกติ แก้หวัด ขับเยี่ยว แก้แท้งลูก แก้ปวดฟัน ใช้รักษาโรคบิด ลดไข้ อื่นๆอีกมากมาย ถ้าหากใช้ด้านนอก ใช้รักษาผี แผลพุพอง สมานแผล ลดอาการแพ้จากแมลงกัดต่อย รักษาผิว บำรุงผิว แก้เคล็ดลับขัดยอกรักษาขี้กลากโรคเกลื้อน ฯลฯ แล้วก็ในขมิ้นชันมีสารเคอร์คูไม่นรวมทั้งเคอร์คิมูนอยด์ ที่ช่วยต้านโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีบางประเภทของไวรัส HIV รวมทั้งยังสามารถยับยั้งเซลล์ของโรคมะเร็งได้อีกด้วย แล้วก็พบว่าขมิ้นขันยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และก็ยังมีฤทธิ์ในการขับน้ำดี ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และก็รักษาแผลสำหรับการในกระเพาะได้เป็นอย่างดี

สมุนไพรอื่นๆ

สรรพคุณของยาดำ

ยาดำที่ใช้ในตำรับยาไทยส่วนใหญ่เป็นยาดำที่นำเข้ามาจากแอฟริกา ตำราเรียนคุณประโยชน์ยาโบราณว่า ยาดำมีรสเบื่อรวมทั้งเหม็นขม คุณประโยชน์ถ่ายลมเบื้องสูงให้ลงต่ำ กัดถูเสมหะและเลือด ทำลายพรรดึก เป็นยาถ่าย ยาระบาย แก้โรคท้องผูก โดยกระตุ้นลำไส้และทางเดินอาหารให้บีบตัว ใช้เป็นยาแทรกในยาระบายหลายตำรับ ตราบจนกระทั่งมีคำพังเพยว่า “แทรกเป็นยาดำ” หมายคือแทรกหรือผสมอยู่ทั่วไป เป็นยา ถ่ายพิษไข้ ถ่ายพยาธิตัวตืด ไส้เดือน ขับน้ำดี มีฤทธิ์ไซร้ท้อง ฝนกับเหล้าขาวทาหัวฝี ทาแก้ฟกบวม

สรรพคุณหญ้าแห้วหมู

แห้วหมู แม้ว่าหัวจะมีรสขมแม้กระนั้นก็มีคุณค่าทางของกิน ในทวีปแอฟริกาใช้เป็นอาหารเวลาขาดแคลน และก็เป็นอาหารนกในเวลาอพยพ การใช้คุณประโยชน์จากหญ้าแห้วหมู นิยมนำส่วนหัวใต้ดินมาใช้สูงที่สุด ด้วยเหตุว่าประกอบด้วยสารหลายประเภทดังที่กล่าวข้างต้น สารสกัดที่ได้จากหัวแห้วหมูหรือการนำหัวหญ้าแห้วหมูมาใช้นั้น นิยมใช้รักษาโรคต่างๆ

แบบเรียนยาไทย ขับลม แก้อาการแน่นหน้าอก คลื่นไส้ เข้ายาธาตุแก้ปวดท้อง ขับเหงื่อ ขับเยี่ยว เป็นยาระงับประสาท เป็นยาแก้ปวดในหญิงที่ประจำเดือนไม่ปกติ ลดการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ ใช้แก้อาการคันตามผิวหนัง เป็นยาพอกฝีดูดหนอง

หมอท้องถิ่น ใช้เป็นยาบำรุงทารกในท้อง ปรุงเป็นยาธาตุขับลมในลำไส้ และแก้ลักษณะของการปวดท้องเนื่องจากอาการท้องอืด เฟ้อ ใช้ผสมในลูกแห้งหมาก หรือแป้งข้าวหมัก สำหรับในการทำแอลกอฮอล์ เพราะนำไปสู่ก๊าซเร็ว หญ้าแห้วหมูมีคุณลักษณะเป็นสมุนไพร ซึ่งหัวมีรสเผ็ดขมเล็กน้อย ใช้ขับลม ส่วนสารสกัดจากรากมีฤทธิ์ขับเยี่ยวตำรับยาอายุรเวทของประเทศอินเดีย ใช้แก้ไข้ ความผิดแปลกในทางเดินอาหาร ชาวอาหรับในบริเวณเลอวานต์นำหัวไปอบให้ร้อน ใช้ประคบบริเวณที่บวม ตำรายาจีนเรียกเซียวฟู่ (ภาษาจีนกลาง) หรือเฮียวหู้ (ภาษาจีนแต้จิ๋ว) รากใช้เป็นยาแก้ปวด แก้อักเสบ

หมอแผนใหม่ ใช้แห้วหมูรักษาอาการคลื่นไส้ อาการอักเสบ ลดความเจ็บ ผ่อนคลายของกล้ามเนื้อ มีสารที่มีฤทธิ์ทางเภสัชศาสตร์หลายประเภทเป็นต้นว่า: α-cyperone β-selinene cyperene cyperotundone patchoulenone sugeonol kobusone และ isokobusone สารสกัดจากหัวที่สกัดด้วยเอทานอล มีฤทธิ์ยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีแซนธีน- ออกซิเดส เชื้อไข้มาลาเรียลดฤทธิ์อะฟาทอกสิน ลดความเป็นพิษที่มีต่อตับ ลดฤทธิ์แอลกอฮอล์ รักษาแผลในกระเพาะเพิ่มระดับความดันโลหิต กระตุ้นประสาท กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด ลดอาการหดเกร็งของไส้ กล้ามมดลูก และกล้ามเนื้อเรียบ บำรุงหัวใจ กระตุ้นระบบหายใจ ลดการอักเสบ ยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี Glutamate pyruvate transaminase, Prostaglandin synthetase , Aldose reductase , gamma– glutamyl transpeptidase ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน Estrogen ช่วยลดระดับไขมัน ไตรกลีเซอไรด์ และก็ chlolesteral ในเลือด เพิ่มความเข้มข้นของ Plasma protein รวมทั้งยับยั้งการชีวสังเคราะห์ Prostaglandin

สรรพคุณขิง

ขิง เป็นพืชที่มีความสำคัญทางของกินเนื่องมีธาตุฟอสฟอรัสรวมทั้งวิตามิน เอ สูงและก็ยังช่วยสำหรับในการปรับปรุงรสชาติอาหาร คนโบราณนำส่วนต่างๆของขิง ตัวอย่างเช่น แง่งขิง เปลือกขิง น้ำมันหอมระเหยและใบ สดๆมาใช้เป็นยาสมุนไพร เพื่อรักษาโรคชนิดต่างๆ

การใช้เป็นอาหาร ขิงเอามาปรุงอาหารได้หลากหลาย ขิงอ่อนใช้เป็นผักจิ้ม ใช่ทำผัดขิง ใสในยำได้แก่ยำหอยแครง ใส่ไว้ในแกงฮังเล น้ำพริก กุ้งจ่อม ซอยใส่ไว้ด้านในต้มส้มปลา เมี่ยงคำ ไก่สามอย่าง ใช้ทำขิงดอง ใส่ไว้ในบัวลอยไข่หวานเพื่อดับกลิ่นคาวไข่ ทำเป็นอาหารว่าง ได้แก่ น้ำขิง เต้าฮวย ขิงแช่อิ่ม ขนมปังขิง แล้วก็ยังทำเป็นขิงผงสำเร็จรูป สำหรับชงดื่ม

สรรพคุณขี้เหล็ก

ดอกขี้เหล็ก รักษาโรคเส้นประสาท นอนไม่หลับ ทำให้หลับสบาย รักษาหืด รักษาโรคเลือดทุพพลภาพ ผายธาตุรักษารังแค ขับพยาธิ สารในกลุ่มแอนทราควิโนน (anthraquinones) ช่วยออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของไส้ ทำให้ถ่ายได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นยาระบาย และแก้อาหารท้องผูก ช่วยยับยั้งรวมทั้งชะลอการขยายตัวของเซลล์ของโรคมะเร็ง

ใบขี้เหล็ก รักษาโรคบิด เบาหวาน แก้ร้อนใน รักษาโรคฝีมะม่วง รักษาโรคเหน็บชา ลดระดับความดันโลหิตสูง ขับพยาธิ เป็นยาระบาย รักษาอาการนอนไม่หลับ ใบขี้เหล็กมีสารที่ชื่อว่า “แอนไฮไดรบาราคอล” (Anhydrobarakol) ที่มีสรรพคุณช่วยสำหรับในการผ่อนคลายความเครียดทุเลาอาการจิตฟุ้งซ่าน

แก่น รักษาโรคเบาหวาน รักษาโรคโรคหนองใน ใช้เป็นยาระบาย รักษาวัณโรค รักษาโรคมะเร็งปอด ปอดอักเสบ มะเร็งลำไส้ โรคมะเร็งกระเพาะ

รากขี้เหล็ก และเปลือกลำต้น (รสขม) ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ ในลักษณะเดียวกันที่กล่าวข้างต้น นำเปลือกขี้เหล็กมาต้มน้ำอาบในลักษณะเช่นเดียวกันกับใบ เพื่อรักษาโรคผิวหนัง นำราก และเปลือกมาต้มดื่ม ช่วยอาการท้องเสีย แก้ปวดเมื่อย แก้อาการเหน็บชาตามร่างกาย บำรุงไต บรรเทาอาการไข้หวัด แก้ตัวร้อน รักษา แล้วก็ทุเลาอาการเป็นริดสีดวง

ฝักขี้เหล็ก แล้วก็เมล็ดขี้เหล็ก ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ ในลักษณะเดียวกันที่กล่าวข้างต้น แก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว เหน็บชา ช่วยลดอาการไอ และขับเสลด ช่วยลดความเครียด ผ่อนคลายของกล้ามเนื้อ รวมทั้งช่วยให้ง่วงหงาวหาวนอนง่าย ช่วยสำหรับการขับลม แก้ลมดันในระบบทางเดินอาหาร