วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ยอดเยี่ยมมหัศจรรย์คุณประโยชน์กระชายดำ

กระชายดำ ประโยชน์สรรพคุณ และงานวิจัยข้อดีข้อเสีย

ชื่อสมุนไพร กระชายดำ

ชื่ออื่นๆ/ ชื่อท้องถิ่น กระชายม่วง , ว่านเพชรดำ , ขิงทราย (มหาสารคาม) , ว่านนิ่งงัน , ว่านพญานกยูง , ว่านกั้นบัง ,ว่านกำบัง , ว่านกำบังภัย , กะแอน . ระแอน (ภาคเหนือ)

ชื่อวิทยาศาสตร์ Kaempferia parviflora Wallich. ex Baker

ชื่อวงศ์Zingiberaceae

ถิ่นกำเนิดกระชายดำ

มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบได้หนาแน่นในแถบมาเลเซีย เกะสุมาตรา เกาะบอร์เนียว อินโดจีน แล้วก็ในประเทศไทย และมีเขตการกระจายประเภททั่วไปในทวีปเอเชียเขตร้อน ในประเทศจีนตอนใต้ ประเทศอินเดีย และเมียนมาร์ สำหรับประเทศไทยนั้นมีการปลูกกระชายดำมากมายในจังหวัดเลย ตาก จังหวัดกาญจนบุรี และก็จังหวัดอื่นๆทางภาคเหนือ

ลักษณะทั่วไปของกระชายดำ

กระชายดำจัดเป็นไม้ล้มลุกมีอายุหลายปีมีเหง้าอยู่โต้ดิน โดยในแต่ละส่วนมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • เหง้ากระชายดำ นั้นมีลักษณะเป็นทรงกลม เป็นปุ่มป่นเรียงต่อกัน และมักมีขนาดเท่าๆกัน มีหลายเหง้าแล้วก็อวบน้ำ ผิวเหง้ามีสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาบเข้ม และก็บางทีอาจเจอรอยที่ผิวเหง้าเป็นบริเวณที่จะงอกของต้นใหม่ ส่วนเนื้อข้างในชองเหง้ามีสีม่วงอ่อน สีม่วงเข้ม ไปจนถึงม่วงดำ เหง้ามีกลิ่นหอมสดชื่นเฉพาะบุคคล รวมทั้งมีรสชาติขมเล็กน้อย โดยกระชายดำที่ดีนั้นจะต้องมีสีม่วงเข้มถึงสีดำ
  • ใบกระชายดำ มีใบเป็นใบผู้เดียว ลักษณะเป็นรูปรีหรือรูปไข่ มีความกว้างประมาณ 5 – 10 ซม. แล้วก็ยาวประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร ปลายใบแหลม ขอบใบหยักตามเส้นใบ ผิว ในเป็นร่องคลื่นตลอดใบตามแนวของเส้นใบ ใบมีสีเขียวสด ส่วนโคนก้านใบมีลักษณะเป็นกาบหุ้มลำต้นไว้ ขอบก้านใบมีสีแดงตลอดความยาวของก้าน ส่วนกลางก้านเป็นร่องลึก
  • ดอกกระชายดำ ดอกออกเป็นช่อแทรกขึ้นมาจากโคนกาบใบ ก้านช่อดอกมีความยาวราว 5 – 6 ซม. กลีบดอกไม้ที่ส่วนโคนเชื่อมเป็นหลอด ยาวราว 3 - 3.2 เซนติเมตร ที่ปลายแยกเป็นแฉก เกสรตัวผู้เป็นหมัน มีสีขาว ลักษณะเป็นรูปขอบขนาด มีความกว้างประมาณ 3 มิลลิเมตร และก็ยาวโดยประมาณ 10 -13 มม. ส่วนกลีบปลายมีสีม่วง

การขยายพันธุ์กระชายดำ

ขยายพันธุ์โดยการใช้หัวหรือแยกหน่อ ปลูกได้ตลอดปี แม้กระนั้นฤดูที่สมควรอยู่ในระหว่างมีนาคม – พฤษภาคม การเตรียมหัวกระชายดำสำหรับปลูก หัวกระชายดำหัวหนึ่งจะมีหลายแง่ง ให้บิ (หัก) ออกมาเป็นแง่งๆถ้าแง่งเล็กก็ 2 – 3 แง่ง ถ้าเกิดแง่งใหญ่บริบูรณ์ก็แค่แง่งเดียวก็พอเพียง เนื่องจากว่าเมื่อกระชายดำโตขึ้น กระชายดำก็จะแตกหน่อ แล้วก็เกิดหัวกระชายดำหัวใหม่ขึ้นมาแทน แล้วก็จะขยายหัวและหน่อออกไปเรื่อยจะมากมายหรือน้อยขึ้นอยู่กับการดูแลและรักษา ท่อนหัวหรือแง่งที่ใช้ปลูกในทีแรกๆที่เฉาและก็แห้งไปในที่สุด ก่อนนำไปปลูก ควรจะทารอยแผลของแง่งกระชายดำที่ถูกหักออกมาด้วยปูนรับประทานหมาก หรือจะจุ่มน้ำยากันเชื้อราก็ได้ แล้วผึ่งในที่ร่มจนถึงหมดหรือแห้ง แล้วจึงนำไปปลูก การปลูกกระชายดำก็ราวการปลูกกระชายธรรมดาโดยธรรมดา สามารถปลุกก้าวหน้าในดินที่ร่วนซุย การระบายน้ำดี แม้กระนั้นระวังไม่ให้อุทกภัยขัง เพราะจะก่อให้หัวหรือเหง้าบูดเน่าได้ง่ายส่วนในดินเหนียว และดินลูกรังไม่ค่อยจะสมควรนัก โดยธรรมชาติแล้วก็กระชายดำขอบขึ้นตามร่มไม้ในป่าดิบ รวมทั้งป่าเบญจพรรณทั่วไป แต่ในที่โล่งก็สามารถปลูกได้

องค์ประกอบทางเคมีของกระชายดำ

ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์พบว่า ในเหง้ากระชายดำมีน้ำมันหอมระเหยแต่เจอในจำนวนน้อย (ราวปริมาณร้อยละ 1 – 3) น้ำมันหอมระเหยของกระชายดำมีสารเคมีหลายประเภท ตัวอย่างเช่น 1.8-cineol,camphor, d-borneol และก็ methyl cinnamate น้ำมันหอมระเหยที่เจอส่วนน้อย เป็นต้นว่า d-pinene, zingiberene , zingiberone, curcumin รวมทั้ง zedoarin นอกจากนี้ ยังเจอสารอื่น ดังเช่น กลุ่มไดไฮโดรซาลโคน pincocembrin รวมทั้งกล่มุซาลโคน (ดังเช่น 2 , 4 , 6-trihydroxy chalcone แล้วก็ cardamonin)(ณาตยา ธนะศิริวัฒนา, สุนิดา ณ ตะกั่วทุ่ง, ธนนันต์ ฐานะจาโร,2540)

สูตรส่วนประกอบทางเคมีสารกรุ๊ป chalconeที่มา Rein (2005)

สูตรองค์ประกอบทางเคมีสารกลุ่ม Anthocyanin

ที่มา Castaneda-Ovando et al. (2009)

สรรพคุณกระชายดำ

ใช้บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อยและก็อาการเหนื่อยล้า แล้วก็เพิ่มสมรรถภาพทางเพศขับลม เป็นยาอายุวัฒนะ แก้จุกเสียด แก้เจ็บท้อง หรือตำกับเหล้าขาวคั้นน้ำดื่ม แก้โรคมดลูกทุพพลภาพ มดลูกหย่อน ใช้ปัดกวาดคอเด็ก แก้โรคตานซางในเด็ก หรือต้มดื่มแก้โรคตา ช่วยบำรุงฮอร์โมนเพศชาย แก้กามตายด้าน ด้วยการใช้เหง้ากระชายดำสดเอามาดองกับเหล้าขาวแล้วก็น้ำผึ้งแท้ (ในอัตราส่วน 1 กิโล : เหล้าขาว 3 ขวด : น้ำผึ้ง 1 ขวด) ดองทิ้งเอาไว้ราวๆ 9 – 15 วัน แล้วประยุกต์ใช้ดื่มวันละ 1 – 2 เป๊ก (กระชายดำมิได้เป็นยาปลุกอารมณ์ทางเพศ แต่ว่าระยะเวลาการแข็งตัวที่นานขึ้น แล้วก็สำหรับคนที่ไม่ได้มีปัญหาดังที่กล่าวผ่านมาแล้วก็สามารถรับประทานเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงแรกขึ้นได้)ถ้าเกิดคุณผู้หญิงทานแล้วจะช่วยสำหรับปรับสมดุลของฮอร์โมนทางเพศ ช่วยกระตุ้นระบบประสาท ทำให้ร่างกายชุ่มชื่น ช่วยสำหรับการนอน แก้อาการนอนไม่ค่อยหลับในช่วงกลางคืน ช่วยทำให้นอนดีขึ้น

รูปแบบ , ขนาดวิธีการใช้

สำหรับวิธีการใช้กระชายดำเพื่อเป็นยาอายุวัฒนะ ใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง แก้โรคบิด แล้วก็ลมป่วงทุกประเภท

  • ถ้าเกิดเป็นเหง้าสด ให้ใช้ประมาณ 4 – 5 เอามาดองกับเหล้าขาว 1 ขวดก่อนนำมารับประทานเป็นอาหารมื้อเย็น ในจำนวน 30 cc. หรือ จะฝานเป็นแว่นบางๆแช่กับน้ำ หรือเอามาดองกับน้ำผึ้งในอัตราส่วน 1:1
  • หากเป็นเหง้าแห้งก็ให้ใช้ดองกับน้ำผึ้งในอัตราส่วน 1 ต่อ นาน 7 วัน แล้วนำมาใช้ดื่มก่อนนอน
  • แม้เป็นแบบชงหรือแบบผง ให้ใช้ผงแห้ง 1 ซอง ชงกับน้ำร้าน 1 แก้ว (ขนาน 120 cc.) และแต่งรสด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำตาลตามความอยาก แล้วเอามาดื่ม

การเรียนทางเภสัชวิทยาของกระชายดำ

  1. ฤทธิ์ต้านอักเสบ สาร 5,7 – ได้การบูชายัญอกซีฟลาโม้น (5,7-DMF) ที่แยกได้จากเหง้ากระชายดำ มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบเทียบเคียงได้กับยามาตรฐานหลายแบบหมายถึงแอสไพริน , อินโดปัญญาสิน , ไฮไดรคอร์ติโซน รวมทั้งเพรดนิโซโลน จากการเรียนรู้ฤทธิ์ต้านทานอักเสบของสารนี้ ในสัตว์ทดลองด้วยวิธีการต่างๆพบว่าสาร 5,7-DMF สามารถต้านการอักเสบแบบกะทันหันได้ดีมากว่าแบบเรื้อรัง โดยแสดงฤทธิ์ยับยั้งการบวมของอุ้งเท้าหนูขาวจากสารติดอยู่ราจีนแนน และก็เคโอลินได้ดีมากว่าฤทธิ์ยั้งการผลิต granuloma จากการฝังสำลีใต้ผิวหนัง นอกจากนี้ พบว่า สาร 5,7-DMF มีฤทธิ์ยับยั้งการเกิด exudation และก็การผลิตสาร prostaglandin อย่างเป็นจริงเป็นจัง เมื่อศึกษาเล่าเรียนฤทธิ์ต้านการอักเสบในช่องปอดของหนูขาว (rat pleurisy) (สกุลพัฒนา ทัศนียกุล รวมทั้งสว่าง ปั้นทองคำ,2528)
  2. ฤทธิ์ต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ สาร 5,7,4'-trimethoxyflavone แล้วก็ 5,7,3' ,4' –tetramethoxyflavone แสดงฤทธิ์ต้านทานเชื้อ Plasmodium falciparum ที่เป็นสาเหตุของโรคมาลาเรีย ส่วนสาร 3,5,7,4'-tetramethoxyflavone และก็ 5,7,4'-trimethoxyflavone แสดงฤทธิ์ต่อต้านเชื้อ Candida albicans และแสดงฤทธิ์ต้านเชื้อ Mycobacterium อย่างอ่อน (Wattanapitayakui S, Nawinprasert A, Herunsalee A, et al,2003)
  3. พิษต่อเซลล์มะเร็ง (cytotoxic activity) จากการทดลองผลของฟลาโวนอยด์ 9 ชนิดของกระชายดำต่อเซลล์ของมะเร็ง อย่างเช่น KB , BC หรือ NCI-H187 ไม่พบว่ามีสารใดกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดพิษต่อเซลล์ของโรคมะเร็งที่ทดสอบ (สกุลพัฒนา ทัศนียกุล แล้วก็สว่าง ปั้นทอง,2528)
  4. ฤทธิ์ขยายหลอดเลือดแดง มีรายงานการวิจัยว่า สารสกัดด้วยเอธานอลของกระชายดำมีฤทธิ์ขยายเส้นโลหิตแดงใหญ่ (aorta) ละลดการหดเกร็งของ ลำไส้เล็กส่วนปลาย (ileum) ของหนูขาว และก็ยั้งการยึดกรุ๊ปของเกล็ดเลือดของคน.(Yenchai C, Prasaphen K, Doodee S, et al,2004)

การเล่าเรียนทางพิษวิทยา

การศึกษาพิษเรื้อรังช่วงเวลา 6 เดือน ของผงกระชายดำในหนูขาว ในขนาด 20 , 200 , 1000 รวมทั้ง 2000 มก/กก./วัน เทียบกับกรุ๊ปควบคุมที่ได้รับน้ำ พบว่า หนูที่ได้รับกระชายดำทุกกรุ๊ปมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น อาการและสุขภาพไม่ได้ต่างอะไรจากกรุ๊ปควบคุมหนูที่ได้รับกระชายดำขนาด 2000 มก/กิโลกรัม มีน้ำหนักสัมพันธ์ของตับสูงยิ่งกว่ากรุ๊ปควบคุมอย่างเป็นจริงเป็นจัง บางทีอาจเหตุเพราะมีน้ำหนักตัวที่ต่ำกว่ากรุ๊ปควบคุม รวมทั้งมีเม็ดเลือดขาวอิโอสิฟิสที่ได้รับกระชายดำ 2000 มก./กก. หรูหราซีรั่มโซเดียมสูงขึ้นมากยิ่งกว่ากรุ๊ปควบคุมอย่างมีนัยสำคัญแต่ว่ายังอยู่ในตอนค่าปกติ ผลของการตรวจอวัยวะทางจุลพยาธิวิทยานั้นไม่เจอการเปลี่ยนแปลงที่ระบุว่ากำเนิดความเป็นพิษของกระชายดำ (ทรงพล ชีวะพัฒน์, ณุฉัตรา จันทร์สุการพาณิชย์, ปราณี ชวลิตทรง รวมทั้งคณะ.2547)

ข้อแนะนำ /{ข้อควรระวัง

  • กระชายดำสามารถรับประทานได้หญิง รวมทั้งชายโดยไม่เกิดผลข้างเคียงอะไรก็แล้วแต่ยิ่งสำหรับคนวัยชราก็พบว่านิยมใช้กันมานานมากแล้ว
  • ผลกระทบของกระชายดำ การรับประทานในขนาดสูง อาจก่อให้กำเนิดอาการใจสั่นได้
  • ห้ามใช้กระชายดำในเด็ก แล้วก็ในคนเจ็บที่เป็นโรคตับ
  • การรับประทานเหง้ากระชายดำติดต่อกันนาน อาจก่อให้เหงือกร่น
  • แม้จะมีการวิจัยในสัตว์ทดสอบที่บอกว่ากระชายดำไม่พบว่ามีความเป็นพิษ แต่ว่ายังไม่มีรายงานการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยเพื่อประเมินประสิทธิผล ของการใช้กระชายดำในคนควรต้องรับประทานในจำนวนที่เหมาะเจาะ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น