วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2560

วิตามินลูทีนบำรุงสายตา

 

ขายลูทีน (Lutein) สุดยอด วิตามิน บำรุงสายตา

ขายลูทีน การมองเห็นถือเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่มีความหมายต่อมนุษย์เราเป็นอย่าง ยิ่ง และอวัยวะที่เป็นตัวรับภาพต่างๆจากภายนอกให้พวกเราได้รับรู้ก็คือดวงตา กลไกสำหรับในการเห็นก็คือ เมื่อมีแสงตกกระทบกับวัตถุ แสงสว่างขายส่งลูทีนจะสะท้อนเข้าสู่นัยน์ตาเราผ่านกระจกตา รูม่านตา แก้วตา แล้วก็ไปตกที่จอสำหรับรับภาพตาในรูปแบบของภาพหัวกลับแล้วจึงถูกส่งไปแปลเป็นภาพที่เรา มองเห็นจริงในระบบประสาทส่วนท้ายทอย สารอาหารจำเป็นต้องสำหรับดวงตา ขายลูทีนมีอยู่หลายชนิด ร่วมกันหมายถึงวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี รวมทั้งสารอาหารที่มีงานศึกษาเรียนรู้วิจัยอย่างกว้างขวางว่ามีสาระกับดวงตาโดยตรงก็หมายถึงลูทีน รวมทั้ง ขายลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)เป็นสารธรรมชาติที่มีในพืชผักผลไม้หลายแบบ เป็นสารในเชื้อสายของสารแคโรทีนอยด์ และพบได้ในรอบๆดวงตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงรอบๆเลนส์ตาแล้วก็จอภาพตาในธรรมชาติแม้จะมีแคโรทีนอยด์ มากยิ่งกว่า 600 ประเภท แต่ว่ามีเพียงแต่สาร 2 ประเภทนี้แค่นั้น ที่เจอในจุดรับภาพของเรตินา สารทั้งสองประเภทนี้จะปฏิบัติหน้าที่ช่วยกรองหรือป้องกันขายลูทีนรังสีจากแสงอาทิตย์ที่เป็น อันตรายต่อดวงตา รวมทั้งช่วยป้องกันเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย โดยการลดอนุมูลอิสระ ด้วยเหตุดังกล่าว จึงทำหน้าที่บำรุงตา ทำให้จอตาไม่เสื่อมเร็ว ดังนั้นใครที่อยากถนอมสายตาไว้ ใช้งานนานๆก็จำเป็นต้องรับประทานผักและผลไม้ สีเหลือง แล้วก็สีเขียวเข้มมีการขายลูทีนทั่วๆไป รวมทั้งยังมีแหล่งที่พบ ลูทีน และ ซีแซนทีน ในธรรมชาตินอกเหนือจาก จะพบมากในดอกดาวเรือง และโกจิเบอร์รี่(เก๋ากี้) แล้ว ยังพบใน กะหล่ำ ผักโขม ถั่วลันเตา ต้นอ่อนกะหล่ำดาว ถั่วพิสตาชิโอ บรอกวัวลี ข้าวโพด ไข่ แครอท ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักปวยเล้ง ผักกาดหอม ผักโขม แตงกวาเปลือก ซูกินีทั้งยังเปลือก ถั่วแขก อะโวคาโด มัสตาร์ด ฟักทอง เป็นต้นการบริโภคผักที่มีการรับผลิตลูทีนและชีแซนทีน หรือแม้กระทั้งอาหารสุขภาพที่มีสาระสำคัญนี้ ก็เลยมีสาระเป็นอย่างมากต่อร่างกายของดวงตา มีส่วนช่วยลดการเสี่ยงการเกิดโรคหลายแบบด้วยกัน ที่สำคัญเป็น โรคต้อกระจก แล้วก็โรคจุดรับภาพเสื่อมโดยสรุปแล้ว ลูทีน (Lutein) จะช่วยให้นอนไม่หลับแรง ปกป้องประสาทตาเสื่อม เสริมสร้างการมองเห็นโดยช่วยคุ้มครองปกป้องการเสื่อมของ Macular ที่จุดเล็กๆตรงกลางของที่รับแสงในตา (Retina) อันเป็นส่วนสาคัญของ Main pigment (สี) ในฉากรับแสงของตา คุ้มครองขายส่งลูทีนไม่ให้แสงตะวันทำลายเรตินา คุ้มครองป้องกันโรคจุดรับภาพเสื่อม หรือหน้าจอประสาทตาเสื่อม AMD (Age – Related Macular Degeneration) ช่วยคุ้มครองแคปซูลลูทีนแล้วก็ลดลักษณะของโรคต้อกระจก (Cataracts) ต้านอนุมูลอิสระ ที่ทำลายเซลล์ตา ทำให้เซลล์แข็งแรง ช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของตา และเพิ่มสมรรถภาพในการมองเห็นได้ดิบได้ดีในที่มืดได้ดีขึ้น

    ขายลูทีน การกินสารในกรุ๊ปแคโรทีนในจำนวนที่สูงที่สุดจะมีอัตราเสี่ยงต่ำยิ่งกว่าร้อยละ 43 สำหรับสภาวะการเสื่อมของหน้าจอประสาทตาตามอายุอย่างฉับพลัน เมื่อเปรียบเทียบการกินในจำนวนที่ต่ำที่สุด จากการศึกษาเล่าเรียนกลุ่มทดลองจำนวน 876 คนซึ่งแก่ ระหว่าง 55-80 ปี การได้รับลูทีนรวมทั้งซีซานทีน ในอัตราสูงจะช่วยลดการเสี่ยงของหน้าจอประสาทตาเสื่อมอย่างเฉียบพลันได้

ส่วนประกอบสำคัญ

ทอลีน
เบต้าแคโรทีน
วิตามิน บี2
สารสกัดบิลเบอร์รี่
สารสกัดดอกดาวเรือง (มีลูทีนและซีแซนทีน)
สารสกัดใบแปะก๊วย

ขายส่งลูทีน จำหน่ายลูทีน แคปซูลลูทีน รับผลิตลูทีน ลูทีน(Lutein) และ ซีแซนทีน(Zeaxanthin)

สรรพคุณลูทีน ช่วยบำรุงสายตา ทำหน้าที่ช่วยให้มองภาพได้คมชัด
และเห็นรายละเอียดของภาพดีขึ้นช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของเลือด
และเส้นเลือดฝอยที่เลี้ยงตาช่วยให้ดวงตาแข็งแรง 
ป้องกันประสาทตาเสื่อม

สรรพคุณอื่นๆ

สรรพคุณเถาวัลย์เปรียง

เถาวัลย์เปรียงตามตำราไทยว่าทำให้เอ็นอ่อนลง แก้เอ็นพิการ และก็แก้ลักษณะของการปวดเมื่อยล้าตามร่างกาย ซึ่งประชาชนนำมาใช้เป็นยารักษาบรรเทาอาการปวดปวดเมื่อยร่างกายมานานแล้วรับขายลูทีน

ตำรายาพื้นเมือง: ใช้เถา ขับเยี่ยว แก้บิด แก้หวัด ใช้เถาคั่วไฟให้หอมชงน้ำดื่มแก้เมื่อย แก้เส้นเอ็นพิการ แก้เมื่อยขบภายในร่างกาย แก้กษัยเหน็บชา ต้มรับประทานถ่ายเส้น ถ่ายกระษัย แก้เอ็นขอด ถ่ายเสลด ไม่อึรับผลิตลูทีนเหมาะที่จะใช้ในโรคบิด ไอ หวัด ใช้ในเด็กเจริญ แก้ปวด แก้ไข้ ทำให้เอ็นอ่อนลง ขับปัสสาวะ แก้เยี่ยวพิการ บางตำราขายส่งลูทีนบอกว่าทำให้มีกำลังดีแข็งแรงสู้ไม่ถอย

o เป็นสมุนไพรที่มีการประยุกต์ใช้ในสูตรยาอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยใช้เป็นองค์ประกอบเพิ่มอีกจากสูตรยาอบสมุนไพรหลัก เมื่ออยากได้อบเพื่อรักษาลักษณะของการปวดเมื่อยล้า ปวดหลัง ปวดเอว เป็นต้น

o เถามีรสฝาดแคปซูลลูทีนเอียน ใช้ต้มกินเป็นยาขับปัสสาวะ แก้เยี่ยวแตกต่างจากปกติ แก้ปัสสาวะกระปริบกะปรอยๆ ส่วนรากมีรสฝาดเหม็นเบื่อมีคุณประโยชน์เป็นยาขับปัสสาวะรับผลิตลูทีนเช่นกัน (เถา,ราก)รวมทั้งยังมีข้อมูลระบุว่าการใช้สมุนไพรจำพวกนี้จะทำให้ปัสสาวะได้บ่อยมากกว่าปกติ จึงบางทีอาจขายลูทีนมีคุณประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตด้วย

o คนโบราณจะนิยมใช้เถาของเถาวัลย์เปรียงเพื่อเป็นยารักษาอาการตกขาวของสตรี (อาการตกขาวประเภทที่ไม่มีกลิ่น ไม่มีอาการคัน ไม่กลายเป็นสีเขียว) (เถา)

o เถามีคุณประโยชน์สำหรับในการบีบมดลูก (เถา)ขายเห็ดหลินจือ

แบบอย่าง ขนาดวิธีการใช้ บัญชียาหลักแห่งชาติ บัญชียาจากสมุนไพร 2556 ยาปรับปรุงจากสมุนไพร กรุ๊ปยารักษากลุ่มอาการทางกล้ามและกระดูก ระบุรับผลิตลูทีนต้นแบบแล้วก็ขนาดวิธีการใช้ยาดังนี้

  1. ขับโลหิตเสียของสตรี ด้วยการใช้เถาวัลย์เปรียงทั้งยังห้าแบบสดๆเอามาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้ดื่มต่างน้ำ (ทั้งยังห้า)แคปซูลลูทีน
  2. ทำให้มดลูกเข้าอู่ ด้วยการใช้เถาสดเอามาทุบให้ยุ่ย แล้ววางทาบลงบนหน้าท้อง แล้วนำหม้อเกลือที่ร้อนมานาบลงไปบนเถาวัลย์เปรียง จะช่วยให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น
  3. ใช้เถานำมาหั่นตากแห้งคั่วชงน้ำกินต่างน้ำชาเป็นยาทำให้เส้นหย่อนยาน แก้อาการเมื่อยขบตามร่างกาย แก้อาการปวดปวดเมื่อย แก้เหน็บชา (เถา)
  4. ใช้เถาเพื่อรักษาโรคอัมพฤกษ์แล้วก็กระดูกหัก โดยการนำเถามาตำให้เป็นผุยผงผสมกับน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันหัวครำ แล้วใช้เป็นยาใช้ภายนอกนวดรอบๆที่เป็นทุกๆวันจนถึงหาย (เถา)ยาเถาวัลย์เปรียง ยาแคปซูล (โรงพยาบาล)ข้อบ่งใช้ : บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ลดการอักเสบของกล้ามขนาดแล้วก็วิธีการใช้ : รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม – 1 กรัม วันละ 3 ครั้งแคปซูลลูทีน หลังรับประทานอาหารในทันทีสิ่งที่ห้ามใช้ : ห้ามใช้ในหญิงมีท้องยาสารสกัดจากเถาวัลย์เปรียง ยาแคปซูลข้อบ่งใช้ : ทุเลาอาการปวดข้างหลังข้างล่าง (low back pain) รวมทั้งลักษณะของการปวดจากข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)ขนาดรวมทั้งการใช้ : กินครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารโดยทันทีข้อบังคับใช้ : ห้ามใช้กับหญิงมีท้องยาเถาวัลย์เปรียง(แคปซูล) 400 mg (บัญชีร่วม รพสต.)ข้อบ่งใช้ : แก้ข้ออักเสบ ลดการอักเสบของกล้าม กล้ามเกร็ง OAขนาดและการใช้ : รับประทานครั้งละ 2*3PC (500Mg.– 1g.) วันละ 4 ครั้ง หลังรับประทานอาหารโดยทันทีข้อที่ไม่อนุญาตใช้ : ห้ามใช้ในหญิงมีท้องรับผลิตลูทีน

สรรพคุณชะพลู

ชะพลูด้านการใช้เป็นอาหาร ใบชะพลูมีรสหวาน เย็น รวมทั้งกลิ่นหอมยวนใจที่เป็นเอกลักษณ์ ก็เลยนิยมนำมาประกอบอาหารได้นานัปการรายการอาหาร บทบาทของชะพลูในจานอาหารครัวเรือนประจำถิ่นมีมากขายลูทีนเริ่มตั้งแต่เป็นผักสดที่นิยมกินกับอาหารรสแซบทั้งหลายแหล่ เช่น ลาบ ก้อย น้ำตก เนื้อย่าง ปลาย่าง ตลอดจนน้ำพริกต่างๆชะพลูเป็นเครื่องปรุงที่ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดในอาหารจานท้องถิ่นต่างๆแกงแคของภาคเหนือซึ่งถึงกับเรียกใบชะพลูว่า”ใบผักแค” เลยทีเดียว หรือไม่ก็เป็นเนื่องจากใช้ใบชะพลูเป็นเครื่องปรุงส่วนตัว ก็เลยเรียกแกงนั้นว่าแกงแค เป็นได้สิ่งเดียวกันแคปซูลลูทีนส่วนภาคอีสารนิยมใส่ไว้ด้านในแกงอ่อมต่างๆแกงขนุนอ่อน แกงหัวปลี ภาคใต้ใช้แกงน้ำกะทิใบชะพลูกับหอยแครง ส่วนภาคกลางนิยมใส่แกงคั่วหอยขม นิยมนำมารับประทานร่วมกับข้าวมันส้มตำ ประเภทที่เรียกว่าถ้าขาดใบชะพลู รสของข้าวมันส้มตำก็อร่อยไปเลย รสใบชะพลูตอนที่กัดรวมทั้งบดรับประทานจะมีกลิ่นหอมยวนใจในปารสจัด เคี้ยวนานๆจะได้รสเผ็ดอ่อนๆใบชะพลูขนาดกำลังอร่อยควรจะเป็นใบที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนกระทั่งเกินความจำเป็น ใบก็เลยจะนุ่ม หอม รวมทั้งเผ็ดกำลังพอดี อย่างไรก็แล้วแต่ ใบชะพลูกินได้ทุกขนาดอายุของมัน รับผลิตลูทีนแม้แก่มากมายก็กินได้ เนื่องจากเส้นใยไม่ถึงกับเหนียวกระทั่งกัดไม่ขาด เพียงแค่ใบจะหยาบคายนิดหน่อย และก็กลิ่นจะฉุดเล็กน้อย

ในใบชะพลูมีสารอนุภาคบีตา-แคโรทีนสูงมากมาย ใบเอามารับประทานกับเมี่ยงคำ เอามาแกงใส่กะทิ ข้าวยำ ห่อหมก หรือเป็นผักจิ้มน้ำพริก ทางภาคใต้ใส่ไว้ในแกงน้ำกะทิหอยขม แกงคั่วปูในจังหวัดจันทบุรีใส่เอาไว้ข้างในรับผลิตลูทีนแกงป่าปลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น